Saturday, March 23, 2013


เรื่องของสุขภาพใครบอกไม่สำคัญเราขอเถียงขาดใจ เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ห่วงใยใส่ใจสุขภาพมากขึ้น วิธีง่าย ๆ นอกจากดูแลเรื่องอาหารแล้ว ต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย งานนี้ “ฟรีไทม์” เลยขอนัดแนะนางเอกนักกีฬาอย่าง ปันปัน-เต็มฟ้า กฤษณายุธ ลูกสาวคนสวยของ แม่แหวน-ฐิติมา สุตสุนทร มาโชว์การออกกำลังกายโดยเล่น “พิลาทีส” ให้แฟน ๆ เดลินิวส์เอาเคล็ดไม่ลับนี้ไปลองปรับใช้กับตัวเองเพื่อสร้างหุ่นสวยเริ่ด แต่สุขภาพดีจ้า
เรานัดแนะ “สาวปันปัน” กันที่โรงเรียนสอนเต้น เฮ้าส์ ออฟแดนซ์ ย่านทองหล่อ ซอย10 ของนักร้องสาว เบลล์-สุภัชญา ลัทธิโสภณกุล หรือ เบลล์ ไชน่าดอลล์ นั่น
เอง มาถึงสาวปันปันตื่นเต้นสุดสุดเพราะไม่เคยเล่นโชว์ที่ไหน หลังเปลี่ยนชุดเพื่อความคล่องตัวพร้อมก็เริ่มพูดคุยกับคุณครูเบลล์ที่มาเป็น ติวเตอร์ให้ด้วยตัวเอง โดยเริ่มต้นจากการวอร์มร่างกายยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการบาดเจ็บ ซึ่งพีลาทีสจะเล่นบนเสื่อ มีอุปกรณ์อย่างลูกบอล ยางยืดพลาสติก ในการรองหรือยืดกล้ามเนื้อ ซึ่งพิลาทีสนั้นเป็นการออกกำลังแบบประสานกันระหว่างจิตใจกับร่างกาย ผ่านการใช้กล้ามเนื้อและลมหายใจที่ถูกต้อง ซึ่งสาวปันปันก็ทำตามครูเบลล์ได้เป๊ะทุกท่า จากนั้นสาวปันปันถึงมาเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นในการเลือกพิลาทีสมาออกกำลัง กายให้เราฟังว่า

“เดิมปันปันเป็นนักยิมนาสติกอยู่แล้ว ก็ออกกำลังกายประจำแต่พอมาเป็นนักแสดงออกทีวีจะตัวใหญ่กว่าตัวจริง เราเลยต้องดูแลตัวเองเยอะกว่าคนอื่นด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่เป็นคนเบื่อง่ายถ้าเล่นกีฬาซ้ำ ๆ แค่อย่างเดียวเลยพยายามเล่นหลากหลาย ทั้งมวย เต้น วิ่ง ฟิตเนส สลับ ๆ กันจนเพื่อนมาชวนให้ลองมาเล่นพีลาทีส
เพราะช่วยเรื่องความเรียว ยืดกล้ามเนื้อ ฝึกการทรงตัว เป็นกีฬาที่จะทำให้รูปร่างเราสมส่วนขึ้น เหมาะกับคนทุกวัย เราได้บริหารกล้ามเนื้อส่วนเล็ก ๆ ที่ไม่คิดว่าจะบริหารได้แล้วเห็นผลจริง ๆ ประมาณ 1 เดือน อย่างปันปันเองตอนนี้เพิ่งออกซิงเกิ้ลใหม่ ชื่อเพลง “ค้นหา” ก็ช่วยต่อการร้องเพลงเพราะเกี่ยวกับการควบคุมลมหายใจ มีสมาธิ ด้วย เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมองหาการออกกำลังกายแบบใหม่ปันปันอยากแนะนำพีลาทีสเลยค่ะ ที่สำคัญ ห้ามอดอาหาร แต่ต้องควบคุม ดูแลตัวเองจากข้างใน ออกกำลังกายก็ผอมเองได้ แต่ผอมเกินไปก็ไม่สวยนะคะ”.

Friday, March 22, 2013


แตงโม เผยว่า “จริง ๆ แล้วเรื่องนี้มันก็นานเกือบสองปีแล้ว ก็ยอมรับว่าตอนนั้นคุณแชมป์เคยซื้อแมวให้ตัวหนึ่ง แล้วโมรู้สึกว่ามันราคาแพงเกินไป ไม่อยากรับของแพงจากใคร เลยเอาไปคืนที่ฟาร์ม แล้วมันก็ผ่านมาสองปีโมก็ยังไม่เห็นคุณแชมป์ไปรับแมวมาเลี้ยง ด้วยความที่โมเป็นคนรักแมว เลยบอกว่าถ้าคุณแชมป์จะเอาเงินไปทิ้ง ไม่ได้สนใจขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นโมไปเอามาเลี้ยงแล้วกัน เพราะเขาก็ไม่ได้รักแมว คือที่โมเอามาไม่ใช่ตัวเดิมที่เขาเคยให้ เพราะตัวนั้นที่ร้านคงขายไปแล้ว โมก็ไปเลือกเอาลูกแมวตัวใหม่ที่ร้านนั้น ซึ่งราคาก็แค่ไม่กี่หมื่นบาท ไม่ได้สูงเหมือนที่ข่าวลง”
พอมีข่าวว่าเขาให้แมวคนเลยสงสัยว่ากิ๊กกันรึเปล่า? “คุณแชมป์อาจจะชื่นชมผลงาน เพราะว่าเราก็เป็นเพื่อนกันมา 2 ปีแล้ว และตัวคุณแชมป์เองก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะมาจีบหรือมีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น เพราะตัวคุณแชมป์ก็รู้ดีว่าตัวโมกับเทย่า ภรรยาของเขาก็เป็นพี่น้องที่สนิทกัน เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว และโมก็วางตัวแบบที่คุณแชมป์ก็รู้ว่าเข้าใกล้โมได้มากแค่ไหน ตัวโมและตัวคุณแชมป์ก็ให้เกียรติน้องเทย่าซึ่งเป็นภรรยาคุณแชมป์ แม่ของลูกคุณแชมป์ มันก็ไม่มีทางที่จะเป็นอะไรได้มากกว่านี้ ถ้าคุณแชมป์หวังดี โมก็รับได้ ขอบคุณมากถามว่าตอนนี้ยังติดต่อกับคุณแชมป์เปล่า ก็มีบ้าง พอเขามีข่าวต่าง ๆ เขาก็โทรฯมาถามว่าเขาจะทำยังไงดี เพราะเขาก็ค่อนข้างที่จะตกใจ ต้องพูดประมาณไหน โมก็บอกว่าโดยรายละเอียดโมไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะมันเป็นเรื่องผู้ใหญ่ด้วย เอาเป็นว่าให้เขาใจเย็น ๆ มีอะไรก็ให้เขาค่อย ๆ เคลียร์ละกัน ถ้ามองว่ามันเป็น กระแสที่ออกมาอีก ก็ยกประโยชน์ให้คุณแชมป์ละกัน เพราะว่าโมอยู่วงการนี้มานานแล้ว เรื่องราวต่าง ๆ โมก็ทำอย่างธรรมชาติ ใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนใครจะมีชื่อเสียง ณ ตอนนี้ก็ยกประโยชน์ให้เขาละกัน ถ้าเขาอยากมีชื่อเสียง ก็ช่วยสนับสนุนได้ ส่วนโกรธมั้ย ก็ไม่โกรธ เพราะว่าเพื่อนกัน ไม่เป็นไร ส่วนกลัวคนมองว่าเป็นมือที่สามรึเปล่า ก็ไม่กลัวนะคะ เพราะว่าโมกับน้องเทย่า เรารักกันมากกว่าที่จะไปเป็นเรื่องอื่น มากกว่าเกาะดัง สร้างกระแส เรามีมิตรภาพที่ดีต่อกันมาก เป็นข่าวก็แอบตกใจนิดหน่อยนะคะ เพราะว่าโมไปรับแมวตัวนี้มานานมากแล้ว แต่อยู่ดี ๆ เพิ่งมาเป็นข่าว ตอนที่คุณแชมป์เป็นข่าว คือสถานะกับคุณแชมป์เป็นคนรู้จัก เป็นพี่น้องกัน ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทขนาดนั้น โมรับปรึกษาได้ในบางเรื่องที่เขาคิดว่าโมช่วยเหลือเขาได้ค่ะ”
งานนี้ 4 สาว ฮารุนะ, มามิ, โทโมมิ และ รินะ เปิดฉากความมันแบบนันสต๊อปกันตั้งแต่เพลงแรก ซึ่งแฟนเพลงก็จัดเต็มลุกกระโดดกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่ต้นจนจบเช่นกัน แถมยังขนแต่เพลงฮิต ๆ มาร้องแทบทั้งนั้น ได้แก่ ’ฮารุคาเซะ“ (HARUKAZE) แล้วตามด้วยเพลงที่เหล่าแฟนแอนิเมะรู้จักกันเป็นอย่างดี คือ ’ชุงกัง เซ็นติเมนทัล“ (Shunkan Sentimental) เพลงประกอบเรื่อง “แขนกลคนแปรธาตุ” (Fullmetal Alchemist) นอกจากนี้เหล่าแฟนเพลงยังชูป้ายต้อนรับ 4 สาว ด้วยข้อความเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งแปลเป็นไทยได้ความว่า ’ในที่สุดก็ ได้เจอ แล้วกลับมาใหม่นะ“
ทำเอา 4 สาวปลื้มสุด ๆ จนต้องพักทักทายแฟนเพลงเป็นภาษาไทยอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า ...“สวัสดีค่ะ” จากนั้นพวกเธอก็ปล่อยพลังกันไม่ยั้ง ไม่ว่าจะเป็น ’โชโจะ เอส“ (Shoujo S), ’ร็อค แอนด์ โรล“ (Rock‘n Roll), ’ดอลล์“ (Doll), ’ไทโย สแกนเดอลัส“ (Taiyou Scandalous), ’แซททิสแฟคชั่น“ (Satisfaction) ฯลฯ และด้วยความน่ารักสดใส แต่ฝีมือการเล่นดนตรีของพวกเธอนั้น ทำเอาหนุ่ม ๆ ยังอายเลย งานนี้จึงได้ใจเหล่าสแกนดัลแมเนียชาวไทยไปอย่างล้น
หลามจริง ๆ

Thursday, March 21, 2013

มิ้นต์ เผยว่า “เราในฐานะนักแสดงก็เต็มที่กับการทำงาน แต่โดยความรู้สึกแล้วก็นิดนึงแหละ เพราะว่าเราก็ทำงานหนักมา 9 เดือน แต่ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ดีกว่า ตรงนี้มิ้นต์ไม่รู้เรื่องจริง ๆ ส่วนที่มีข่าวว่าทางช่องสั่งไม่ให้นักแสดงพูดเรื่องนี้ จริง ๆ ผู้ใหญ่ยังไม่ได้บอกอะไรมาเลย และที่นักแสดงคนอื่น ๆ เดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศเลบานอนนั้น พี่นก-ฉัตรชัยแพลนมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าหนูต้องผ่าฟันคุด ก็เลยหยุดอยู่บ้าน 2 อาทิตย์ ไม่ได้ไป ถามว่าฉากที่ไม่ได้ออกอากาศมีอะไรที่เสี่ยงต่อการโดนแบนมั้ย ก็เป็นแค่เรื่องการแย่งศาสตราวุธทั้ง 4 ค่ะ คือตอนถ่ายเราไม่ได้มุ่งประเด็นอะไรอยู่แล้ว และมิ้นต์ยังไม่ได้คุยอะไรกับพี่นกเลย ก็ถ่ายละคร “คุณชายรณพีร์” ปกติ จริง ๆ ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ ไม่ได้โดนใบสั่งจากใคร แต่ว่าเราก็ไม่กล้าไปถามพี่นกอยู่แล้วค่ะ เราก็อยากรู้นะว่าทำไมถึงไม่ได้ฉาย แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับผู้ใหญ่เลย ซึ่งตัวมิ้นต์เองก็ยังไม่ได้ดูตอนจบเลยค่ะ”
นางเอกสาวยังตอบคำถามถึงประเด็นที่มีภาพไปเที่ยวที่เขาใหญ่กับครอบครัว ของภูผาด้วยว่า “คือน้องชายมิ้นต์เพิ่งกลับจากอินเดีย ก็เลยเลี้ยงส่งน้องกลับ ช่วงนี้อากาศเย็นเพื่อนในกลุ่มก็ไปที่นู่นด้วย เลยไปด้วยกันเลยทั้งครอบครัวและเพื่อน ๆ กับภูผาไม่มีภาพคู่เลยนะ ส่วนใหญ่ถ่ายกันเป็นกลุ่มมากกว่า พี่ภูผาก็รู้จักกับที่บ้านหนูอยู่แล้ว น้อง ๆ ก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน และทริปนี้ที่ไปก็มีงานวันเกิดของเพื่อนด้วย เป็นทริปใหญ่เลยค่ะ ทริปนี้เราสบายใจไปเที่ยวกับที่บ้าน กับพี่ภูผาก็สนิทปกตินะคะ ในระดับที่ยังเป็นเพื่อนเป็นพี่กันได้อยู่ เราไม่ได้ปากแข็ง คงไม่ต้องรอเรียนจบแล้วค่อยเปิดตัว มิ้นต์ว่ามันไม่ได้อยู่ที่เรียนจบ ด้วยความที่เรายังรู้จักกันน้อยเกินไป ระยะเวลามันต้องเยอะกว่านี้ค่ะ คือพี่ภูผายังไม่ถือว่าสนิทที่สุด ยังอยู่ในกลุ่มเพื่อนกัน ไม่ได้คุยอะไรกันเป็นพิเศษขนาดนั้น ยังไม่ได้เป็นคนพิเศษค่ะ”.
ฉากเด็ดส่งท้ายละครแบบนี้ ทั้งหยกและใหม่ต่อบทกันอย่างเอาจริงเอาจัง เพราะฉากนี้เป็นซีนอารมณ์แถมบทยังยาวเป็นหน้า ๆ ทำเอาสองสาวต้องใช้สมาธิอย่างสูง หลังจากที่ซ้อมบทจนมั่นใจแล้ว ผู้กำกับก็เรียกทั้งคู่มาซ้อมคิวเพื่อให้รู้จังหวะการต่อสู้ เพื่อเซฟความปลอดภัยให้กับสองสาว หลังจากที่ซ้อมจนมั่นใจแล้วก็ถึงเวลาถ่ายทำจริงๆ เริ่มที่หยกบุกเข้าไปหาใหม่ถึงในบ้าน พร้อมกับปืนเพื่อหวังจะฆ่าให้ตาย ใหม่พยายามมองหยกอย่างไม่ละสายตา เพราะกลัวว่าหยกจะเล็งปืนมายิงใส่ พอหยกยกปืนเล็งมาที่ใหม่ ใหม่ก็คว้าเอาหนังสือที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาฟาดเข้าที่มือของหยก จนปืนกระเด็นหลุดมือ ระหว่างที่หยกกำลังก้มเก็บปืน ใหม่ก็เอาหมอนฟาดใส่ที่กลางหลังของหยกเป็นการซ้ำอีกรอบ แล้วอาศัยช่วงชุลมุนนี้วิ่งหนี แต่หยกตามมาทัน หยกโมโหตรงปรี่เข้าไปบีบคอใหม่แล้วเอาหลังกระแทกตู้จนใหม่เริ่มจุกและเจ็บ หยกตามไปกระหน่ำตบและบีบคอใหม่จนใหม่เริ่มหายใจไม่ออกทรุดตัวล้มลงไปกองกับ พื้น หยกรีบไปคว้าขวดยาพิษ แล้วนั่งคร่อมใหม่ไว้ ใหม่พยายามอ้อนวอนขอชีวิต แต่หยกไม่แยแสบีบปากใหม่กรอกยาพิษอย่างเลือดเย็น ใหม่ดิ้นทุรนทุราย น้ำลายฟูมปาก หยกได้แต่ยิ้มหัวเราะสะใจ ระหว่างนั้นเวียร์ก็เดินขึ้นมาหาใหม่ในห้อง หยกได้ยินเสียงเลยรีบจับใหม่มานั่งที่เก้าอี้เซตฉากว่าใหม่กินยาฆ่าตัวตาย เอง แล้วหยกก็รีบไปแอบ พอเวียร์เปิดประตูมาเห็นใหม่นั่งอยู่ที่เก้าอี้เลยเรียก แต่ใหม่ไม่ตอบรับ เลยเดินเข้าไปจับตัวใหม่ ใหม่ถึงกับเซคอตก เวียร์ตกใจมากที่เห็นใหม่หมดสติน้ำลายฟูมปากเลยรีบพาส่งโรงพยาบาล กว่าจะถ่ายฉากนี้ผ่านก็เล่นเอาใหม่กินอีโนไปหลายซองอยู่ เปรี้ยวปากกันไปเลยทีเดียว แต่ภาพออกมาสมจริง น่ากลัวสุดๆ
ความสนุกเปิดเวทีวันแรกด้วยลูกทุ่งร่วมสมัยสุดเซ็กซี่ แมงปอ ชลธิชา, อลิซ อาร์ สยาม และอมตะลูกทุ่งดังอย่าง แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ มาร้องลำตัดให้คนรุ่นใหม่และเก่าได้ร่วมสืบสาน ความเป็นไทยอีกด้วย จากนั้นก็เป็นเวลาเอาใจคอลูกทุ่งแบบจัดเต็ม นำโดย เสรี รุ่งสว่าง, ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, ต้อย หมวกแดง, หญิง ธิติกานต์, หนู มิเตอร์, บิว กัลยาณี จากนั้นมาถึงเวลาเอาใจหนุ่ม ๆ วัยคึก เมื่อสาว ๆลูกทุ่งนุ่งสั้นทยอยขึ้นเวทีชวนแดนซ์ ไม่ว่าจะเป็น ใบเตย อาร์ สยาม ที่ขนเพลงฮิตมาแดนซ์สะบัด ต่อด้วยคู่หู-คู่ฮา ลาล่า และ ลูลู่ โปงลางอาร์ สยาม ปิดท้ายกับคู่พี่น้องอารมณ์ดี กระแต-กระต่าย ข้ามมาวันที่สองได้เวลาร็อกเจอกัน ดร.ฟู, คาราเมล, เล้าโลม ที่ขนเพลงรักหนักแน่นมาเอาใจคอร็อก ตามด้วย แมรี่ หว่อง จากสิงคโปร์ และต่อด้วยศิลปินหนุ่ม ๆ ที่ขอเอาใจสาว ๆ กันบ้าง อาทิ แบล็คแจ็ค, รูกกี้ บีบี, เอ็กซ์ไอเอส, ธามไท, เชน ตามติดด้วย สาวหวาย และมาจัดเต็มกับฟิล์ม-รัฐภูมิ ที่พกความหล่อและมุกฮาน่ารักมาเรียกเสียงกรี๊ด กระทั่งมาถึงสาว ๆ ที่มาเสิร์ฟความสนุกเอาใจแฟนเพลงหนุ่ม ๆ อาทิ ขนมจีน,โฟร์ มด, เฟย์ ฟาง แก้ว, ทรีทูวัน ที่พกแนวสดใสมาร้อง จนมาปิดฉากความสนุกสุดแนวจาก โพลีแคท และ เดอะริชแมนทอย ที่ชวนสนุกเต้นแบบลืมเหนื่อยกันไปเลย ก่อนทุกคนจะแยกย้ายกลับบ้านอย่างสวัสดิภาพ



“เปลี่ยนจากชาลิสา เป็นอรินท์มาศ ด้วยความที่เพื่อนสนิทหมิงไปเปลี่ยนมาก่อน ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อ แต่คุณแม่มีพระนับถือ แล้วเป็นศาสตร์เดียวกับที่เราศึกษา เขาก็บอกเปลี่ยนก็ได้ถ้ามันเป็นไปในทางที่ดี จริง ๆ ชื่อเก่าไม่ได้เลวร้ายนะคะ แต่จะดีแค่ถึงอายุ 30 กว่า ๆ อาจารย์ที่ดูทักว่าสุขภาพจะไม่ดีตอนอายุมาก ส่วนชื่อใหม่แปลว่าทองแท้อันยิ่งใหญ่ เปลี่ยนมาได้ 4-5 เดือน ได้โชคถูกลอตเตอรี่ 3 งวดติด ไม่อยากให้งมงาย เราก็ถามอาจารย์เขาก็บอกว่าเป็นไปได้ เพราะเราเปลี่ยนเทวดาที่คุ้มครอง อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ แต่เขาบอกว่ามันจะดีขึ้นเรื่อย ๆ”
  
“ถามว่าช่วยเสริมเรื่องความรักด้วยหรือเปล่า จริง ๆ ก็หวังไว้หมดเลย หวังว่ามันจะครอบคลุม ครอบครัว ความรัก การงาน ท่านก็ตั้งชื่อมาให้ครอบคลุมอยู่แล้ว แต่คือความรักหมิงตอนนี้ยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ยังไม่ค่อยนิ่ง เรื่องระยะทาง คือเรา 2 คน ยังหาทางออกไม่ได้ เราก็ปรับจูนกันมาตลอด แต่ที่พี่เขาไปทำงานที่ต่างจังหวัด ก็เป็นธุรกิจครอบครัว ส่วนเราเป็นคนที่เพิ่งเข้ามาในชีวิต เราก็ต้องหาจุดที่มันพอดี หมิงว่า 1 เดือนเจอกัน 2 ครั้ง มันน้อยมาก สำหรับทุกคนที่คบกัน ตอนนี้กำลังหาข้อยุติว่าจะเป็นไปในทางไหน ก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่ารักแท้มันแพ้ระยะทาง จะเป็นยังไงก็ไว้ดูกันต่อไปแล้วกัน ส่วนเรื่องอาการป่วยปอดติดเชื้อของคุณแม่ จริง ๆ ก่อนที่คุณแม่จะป่วย พี่สาวก็ป่วยก่อน ปอดหายไป 40 เปอร์เซ็นต์ พอดีไปพบคุณหมอทัน ก็ได้ยาฆ่าเชื้อมารักษาทัน คุณแม่ก็โชคดีตรงที่ว่าเจอก่อน ตอนนี้ก็ให้คุณหมอดูแล และอาการก็ดีขึ้นแล้วค่ะ หมิงก็ไม่ค่อยให้คุณแม่ออกจากบ้าน เดี๋ยวเป็นหนักแล้วจะอันตราย”.

“วันนั้นเราไปทำงานค่ะ แล้วมีผู้ใหญ่ไปเยอะมากเกือบ 50-60 คน ในทีมเราก็มีน้อง ๆ ที่อยู่ในโมเดลลิ่งเดียวกับผู้จัดการเรา หนึ่งในนั้นก็มีมิกซ์ด้วย ซึ่งมิกซ์ก็เป็นพระเอกใหม่ของช่อง 7 ยังไงก็ฝากด้วย จริง ๆ ก็ยังไม่รู้จักกัน รู้แค่ว่าอยู่ในสังกัดเดียวกันค่ะ เขาไม่ใช่หวานใจตัวจริงแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ อยากจะบอกทุกคนเหมือนกันว่า ไม่ใช่ว่าอยู่ใกล้ใครก็เป็นข่าว ก็ขอบคุณที่ทำให้มีข่าว พอมีข่าวก็แก้ตัวกันไป เรื่องข่าวมินไม่เคยซีเรียสเลยนะ ขอแค่มีอะไรให้มาถามมิน อย่าลือไปเอง อย่าตัดสินไปเองเพราะคำพูดของคนอื่นก็แล้วกันค่ะ ที่บ้านก็ค่อนข้างเป็นห่วง มินก็ให้เกียรติพี่ ๆ ทุกคน เวลามีข่าวอะไรมาก็ขำ ๆ เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า แต่บางครั้งคุณพ่อก็รู้สึกว่าเล่นกันแรง ก็ปราม ๆ กันหน่อย ออกมาแก้ข่าวบ้างนะลูก แค่นี้ค่ะ มินก็พูดชัดเจนทุกครั้ง แต่ก็ไม่ซีเรียสค่ะ โดนข่าวเยอะ แต่ทุกคนก็ให้ความสนใจ เราก็ไม่ซีเรียส ไม่เบื่อที่จะตอบ แต่มินก็จะพูดเหมือนกันทุกครั้ง ที่บ้านมินก็เข้าใจท่านไม่ว่าอะไรเลยค่ะ”.

แก้ม เผยว่า “ที่ผอมเพราะตั้งใจลดเพื่อถ่ายแฟชั่นชุดนึง ซึ่งเกี่ยวกับวาเลนไทน์ เป็นคอนเซปต์ที่เราอยากจะถ่ายและไม่เคยถ่ายด้วย น้ำหนักก็ลงไปประมาณ 5 กิโลได้ค่ะ แฟชั่นนี้ก็ค่อนข้างเซ็กซี่เลย แต่ชื่อหัวหนังสืออะไรขออุบไว้ก่อน ถามว่าพักหลังเรามาทางเซ็กซี่รึเปล่า คือถ้าแก้มถ่ายเซ็กซี่แล้วคนยังมองว่ายังบู๊อยู่ ก็ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จนะ แก้มถือว่าถ้าเซ็กซี่ครั้งไหน คนให้ความสนใจ ให้การตอบรับดี ก็ประสบความสำเร็จในการถ่ายแฟชั่นครั้งนั้น ซึ่งการตัดสินใจถ่ายเซ็กซี่ครั้งนี้แก้มก็ค่อนข้างเตรียมใจรับกับคำวิจารณ์ พอสมควรนะ เพราะโลกของเรามันมี 2 ด้านเสมอ มีคนรักก็มีคนเกลียด ก็น้อมรับทุกคำติชมละกันค่ะ”



ชลลี่ วจนานนท์” ที่มีผลงานภาพยนตร์สู่สายตาผู้ชมมาแล้ว อาทิ สวยลากไส้, สี่แพร่ง ล่าสุดมีงานละคร “มณีสวาท” ทางช่อง 3 วันก่อนมีโอกาสเจอเธอ ในกองถ่ายละคร เลยทักทายประสาคนคุ้นเคย เพื่ออัพเดทเรื่องงานซะหน่อย ว่าแล้วเธอเผยให้ฟังว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีนิตยสารฉบับหนึ่ง ติดต่อให้ถ่ายแบบวาบหวิว เธอถึงกับคิดหนัก เพราะห่างหายจากงานถ่ายแบบไปนานหลายปี จนลบภาพเซ็กซี่เหล่านั้นไปหมดแล้ว
   
“คือจริง ๆ ก็แอบกังวลนะ เพราะตอนนี้นอกจากงานแสดงละคร
ที่จะออกอากาศเรื่อง มณีสวาท ทางช่อง 3 แล้ว ยังทำงานเบื้องหลังด้านโปรดักชั่นและเป็นโปรเจคท์เมเนเจอร์ ที่แกรมมี่ด้วย เลยหวั่น ๆ ว่าจะมีผล กระทบกับงานที่ทำอยู่หรือเปล่า ยังอยู่ในช่วงตัดสินใจค่ะ ปรึกษาพี่ ๆ ในวงการ เค้าบอกว่างานแฟชั่นเซ็กซี่ก็เป็นงานอย่างนึง ไม่น่าเสียหายอะไร เพราะชลลี่เป็นคนทำงาน น่าจะทำงานหลาย ๆ รูปแบบ ไม่แน่นะคะ อาจจะได้เห็นชลลี่กับงานถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่เร็ว ๆ นี้ ก็เป็นได้” ว้าว...หยั่งงี้หนุ่ม ๆ ล้างตารอได้เลยจ้า.

“ก็มีใส่ซับในป้องกันไว้ค่ะ อย่างข้างบนก็ป้องกันเซฟไว้หมดแล้วค่ะ แต่ที่ค่อนข้างกังวลมากเวลาเดินบนเวที คือตื่นเต้นมากด้วยค่ะ คนเยอะ กล้องเต็มไปหมด ตอนนี้     ก็เกือบจะล้ม แถมชุดที่ใส่วันนี้กระโปรงก็สั้นและรัดรูป      แต่พอตอนเห็นชุดผู้ใหญ่เขาดูมาแล้วว่ามันโอเค เราก็ใส่ค่ะ จริง ๆ หนูก็ใส่กางเกงเซฟแล้วนะคะ แต่หนูเองก็ยังใหม่ ยังคิดไม่ออกและบอกไม่ถูกว่าจะต้องเป็นอย่างไรและภาพที่ออกมามันจะเป็นแบบ ไหน ครั้งนี้มันก็น่าจะเป็นประสบการณ์ให้เราได้และครั้งหน้าหนูก็คงจะต้องทำให้ ดีขึ้น เพราะตอนหนูเดินก็มีพี่ ๆ และแฟนคลับตะโกนว่าดึงกระโปรง ดึงกระโปรง เราก็ตกใจแล้วก็รีบพยายามดึงกระโปรงลง แต่เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอกค่ะ เราก็พยายามเซฟและระวังตัวดีแล้ว ถามว่าช่วงนี้ปรับลุคให้ดูเซ็กซี่หรือเปล่า อย่าเรียกว่าปรับลุคเลยค่ะ เป็นเรื่องของงานมากกว่า แต่ในชีวิตจริงก็เป็นตัวเราปกติ แต่อย่างเซ็กซี่เวลาออก งานก็อาจจะเป็นเพราะเราโตขึ้นด้วยค่ะ ภาพก็คง จะเปลี่ยนไปจากอายุ 16-17 แบบสมัยก่อน คงไม่ถึงกับเป็นนาง เอกเซ็กซี่น้องใหม่แห่งช่อง 7 เหมือนอย่างที่คนให้ฉายา ถ้าถามหนูบอกได้เลยว่าไม่เคยคิดว่าตัวเองเซ็กซี่เลยค่ะ เราคงยังไปสู้ใครไม่ได้หรอกค่ะ ก็มีงานเซ็กซี่มาติดต่อบ้าง แต่ก็คงยังไม่รับค่ะ เพราะเราคิดว่าเรายังเด็กอยู่ ก็ขอให้มันเป็นไปตามวัยตามความเหมาะสมดีกว่าค่ะ แต่ถ้าให้มาถ่ายตอนนี้ยังไม่ถ่ายแน่นอนค่ะ กลัวคนดูอ้วก

“ไม่มีอะไรค่ะ คือน้องโซ่เป็นน้องที่เชียร์รู้สึกว่าอายุเขาเท่าน้องชายเรา เห็นแล้วเลย เอ็นดูไอ้หนุ่มคนนี้ เพราะเสียงยังเหน่อ ๆ อยู่เลย ก็เจอกัน ตามงานนี่แหละค่ะ ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน เราเห็นว่าน้องเขาเป็นเด็กที่มีน้ำใจ มีสัมมาคารวะ ดูเป็นเด็กที่น่าเอ็นดู เห็นแล้วถูกชะตา ส่วนถามว่าแม่ของเชียร์สนิทกับน้องไหม เพราะเห็นไปทำบุญด้วยกัน คือเราไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น เห็นว่าเป็นคนที่ชวนกันทำบุญกันมากกว่า ส่วนข่าวที่ออกมาว่าไปรับไปส่งกัน ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่เวลาใครมีของจะฝากกัน เรียกว่าเป็นมิตรที่ดีต่อกันอย่างนั้นมากกว่า ถามว่าสเปกเชียร์ชอบเด็กไหม บางทีมันก็กระชุ่มกระชวยดีนะ ชอบสไตล์เกาหลี อย่างโซ่นี่ใช่เลย เชียร์ชอบคนแดนซ์ คนเต้นอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่หรอก แฟนคลับไว้ใจได้ค่ะ เขาเป็นน้องที่เราเอ็นดูเท่านั้นเอง น้องโซ่เด็กไป อายุเท่าน้องชายเชียร์เลยค่ะ ส่วนเรื่องหนุ่มที่คุยด้วยตอนนี้ เชียร์ว่าอย่าถามเลย เรื่องบางเรื่องมันก็เศร้า คือเรายังไม่มีอะไรชัดเจนขนาดนั้น ถามว่ามีคนคุยไหม ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ก็ต้องดูกันต่อไปค่ะ แต่เรื่องเนอร์สเซอรี่ยังไม่คิดจะเปิดค่ะ”.

“ตอนนี้มีละคร “นักสู้มหากาฬ” ถ่ายไปได้ 70 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ แล้วก็มี “โคกอีเลิ้งเริงร่า” กับ “นางมาร” ที่เพิ่งเปิดกล้องไป ส่วนเรื่องหัวใจยังไม่มีอะไรโดดเด่นเลย โอกาสมันน้อยที่เราจะออกไปเจอใคร แต่เราก็ไม่เหงา เพราะว่าเพื่อนเยอะ อยู่กับเพื่อน อยู่กับพี่ ถามว่าเปิดใจไหม เราก็โสดมาจะปีแล้วเนอะ แต่ต่ายเลิกที่จะเร่งตัวเอง ใช้ชีวิตให้ช้าลง แล้ว ณ วันนี้ ต่ายเข้มแข็งขึ้น แข็งแรงขึ้น เพราะมีเพื่อน ๆ มีงาน มีพี่ ๆ คอยให้กำลังใจ มีคนที่เข้าใจเรา ต่ายเลยให้ความสำคัญกับตรงนี้ค่อนข้างเยอะ ไม่ได้ปิดตัวเอง คือมีคนคุยด้วย เราก็คุยด้วย เวลาเรามีความรักแต่ละครั้ง เราไม่อยากให้มันจบลงไม่ดี อยากให้มันแฮปปี้ทุกครั้งอยู่แล้ว ตอนนี้เลยทำให้เราสกรีนคนที่เข้ามาคุยด้วยมากขึ้น แต่ต่ายอยากคบคนนอกวงการมากกว่า ไม่อยากคบคนในวงการแล้ว สำหรับเรื่องอายุไม่ได้โฟกัสขนาดนั้นว่าต้องเด็กกว่าหรือเป็นผู้ใหญ่กว่า ต่ายมองที่ความรู้สึกตัวเองมากกว่าว่าเราพร้อมแค่ไหน จะเริ่มต้นยังไง สำหรับคนที่จะเข้ามา ขอแค่คนที่ปากกับใจตรงกัน ไม่ต้องโกหก ถ้าเราลดแค่เรื่องโกหกออกไปได้ชีวิตมันก็ง่ายขึ้น แต่กว่าที่เราจะรู้เราก็ต้องศึกษาและใช้ระยะเวลาค่ะ”.

วิว กล่าวว่า “เหมือนกลุ่มเขาชอบกัน แต่จำไม่ได้ว่าเพื่อนเขาบอกหรือเขาบอกเองว่าชอบ พอดีเราไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ ทั้งกลุ่ม แล้วบังเอิญมันมีขาย ก็เลยซื้อฝากไปขำ ๆ ให้ตั๊กแตนก็ตลกดี เรื่องที่คนมองว่าซื้อไปฝากตอนตี 2 คือเราไปกินข้าวแล้วฝากเพื่อนไปให้ตอน 3-4 ทุ่ม แต่เพื่อนเอาไปให้กี่โมงหนูก็ไม่ทราบ แต่ไม่มีเอาไปให้เองที่คอนโดฯตอนตี 2 ไม่เคยไปด้วย ส่วนเรื่องที่วิวโพสต์รูปร้านตั๊กแตนแล้วลบออก เพราะถ่ายแล้วมันไม่สวยก็เลยลบเป็นปกติอยู่แล้ว ที่ลบเพราะหน้าวิวมันไกล ๆ แล้วตั๊กแตนเต็มหน้าเลย ไม่ได้ลบเพราะกลัวโดนกระแส จริง ๆ ทุกวันก็จะมีรูปอัพเดทกับแฟนคลับ แต่เวลาเราลงรูปแล้วไม่สวยก็เปลี่ยนรูปดีกว่า และไม่เกี่ยวกับว่าเอาไปให้หมากเลยลบ จริง ๆ แล้วเราไม่ได้เช็ก อินสตาแกรมเขาก่อนด้วยค่ะ จริง ๆ ไม่ว่าจะลงรูปอะไรตอนนี้ก็ถูกเชื่อมโยงอยู่แล้ว” รู้สึกยังไงที่ถูกเชื่อมโยงไปถึงหนุ่ม ๆ 13 คน? “ตอนนี้เวลาจะลงอะไรก็คิดมากเลย เพราะสามารถโยงได้หมด ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน จริง ๆ ยังไม่ได้ดูเลยค่ะว่ามีใครอะไรยังไงบ้าง แต่ส่วนมากมีคนที่วิวร่วมงาน คนที่ไม่รู้มาจากไหนเหมือนกัน คุณแม่ก็ค่อนข้างหนักใจกับข่าวที่ออกมา ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าหมากมาวินสุด ไม่ใช่ค่ะ วิวว่าเป็นช่วงเวลาตอนนี้ที่เราสนิทกับคนนี้ค่ะ อย่างเรื่องที่ไปเดินที่ซีดีซีกัน มันก็มีไปนั่นไปนี่ หมากมีเพื่อนหลายกลุ่ม และมีเพื่อนที่เป็นกลุ่มเดียวกับวิวด้วย แต่ไม่เคยไปกัน 2 คนนะ”

Wednesday, March 20, 2013


“วันนั้นเราไปทำงานค่ะ แล้วมีผู้ใหญ่ไปเยอะมากเกือบ 50-60 คน ในทีมเราก็มีน้อง ๆ ที่อยู่ในโมเดลลิ่งเดียวกับผู้จัดการเรา หนึ่งในนั้นก็มีมิกซ์ด้วย ซึ่งมิกซ์ก็เป็นพระเอกใหม่ของช่อง 7 ยังไงก็ฝากด้วย จริง ๆ ก็ยังไม่รู้จักกัน รู้แค่ว่าอยู่ในสังกัดเดียวกันค่ะ เขาไม่ใช่หวานใจตัวจริงแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ อยากจะบอกทุกคนเหมือนกันว่า ไม่ใช่ว่าอยู่ใกล้ใครก็เป็นข่าว ก็ขอบคุณที่ทำให้มีข่าว พอมีข่าวก็แก้ตัวกันไป เรื่องข่าวมินไม่เคยซีเรียสเลยนะ ขอแค่มีอะไรให้มาถามมิน อย่าลือไปเอง อย่าตัดสินไปเองเพราะคำพูดของคนอื่นก็แล้วกันค่ะ ที่บ้านก็ค่อนข้างเป็นห่วง มินก็ให้เกียรติพี่ ๆ ทุกคน เวลามีข่าวอะไรมาก็ขำ ๆ เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า แต่บางครั้งคุณพ่อก็รู้สึกว่าเล่นกันแรง ก็ปราม ๆ กันหน่อย ออกมาแก้ข่าวบ้างนะลูก แค่นี้ค่ะ มินก็พูดชัดเจนทุกครั้ง แต่ก็ไม่ซีเรียสค่ะ โดนข่าวเยอะ แต่ทุกคนก็ให้ความสนใจ เราก็ไม่ซีเรียส ไม่เบื่อที่จะตอบ แต่มินก็จะพูดเหมือนกันทุกครั้ง ที่บ้านมินก็เข้าใจท่านไม่ว่าอะไรเลยค่ะ”.

“ก็ไม่เคยรับงานแบบนี้ค่ะ ก็ตัดสินใจนานพอสมควร แต่รู้จักกับพี่จ๋า-ยศสินี เจ้าของงานก็เลยรับ เราก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง แล้ววันนี้ก็ค่อนข้างเซฟไว้พอสมควรค่ะ จริง ๆ ตอนที่ซ้อมก็มีคนคอยเช็กให้อยู่แล้วค่ะ ส่วนกระแสที่ว่าค่าตัวถึง 6 หลัก ต้องไปถามพี่จ๋าค่ะ งานนี้เขาบอกให้มาฟรีค่ะ การกุศล (หัวเราะ) คือเราไม่ได้จะมาทวงบัลลังก์เซ็กซี่ แต่ว่าเป็นจังหวะมาก  กว่าค่ะ ส่วนแฟชั่นเซ็กซี่ตอนนี้ก็ยังแน่   นอนค่ะ เป็นเรื่องของคอนเซปต์ด้วย บางทีเราก็อยากจะเห็นตัวเองในอีกแบบหนึ่งบ้าง ถ้าคอนเซปต์ถูกใจก็คงรับค่ะ นอกจากนี้ก็มีถ่ายหนังปลายเดือนนี้ แต่กระแตยังไม่ทราบชื่อเรื่องค่ะ งานนี้ไม่ต้องขออนุญาตพี่หลุยส์ คือเราก็คุยกันอยู่แล้ว ไม่มีอะไร กระแตก็ทำงานแบบนี้อยู่แล้ว บางทีเราก็มีผู้จัดการคอยดูแลให้อยู่แล้ว เขาคบกับกระแตก็ทราบอยู่แล้ว งานก็เป็นงาน ความรักของกระแตตอนนี้ก็ปกติค่ะ เหมือนคนทั่วไป ยังไม่เรียกแฟนค่ะ ขอดูไปเรื่อย ๆ คือเรารู้จักกันก็ 6 ปีแล้วค่ะ    แล้วก็มาเริ่มศึกษากันก็ประมาณ 2 ปีแล้ว เดี๋ยวแต่งงานแล้วค่อยเป็นแฟนแล้วกัน (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีคุยเรื่องนี้เลยค่ะ จริง ๆ เรื่องนี้มันก็เป็นธรรมชาติของแต่ละคน อย่างกระแตไม่ได้ปิดบังอะไร คุยก็คือคุย กระแตว่าต้องใช้เวลาค่ะ ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลย
“สำหรับมิกค์แนทว่าเราเป็นเพื่อนตอนนี้ดีแล้ว จะเป็นแฟนหรือพัฒนามั้ยตอนนี้คงยัง เราทำงานอยู่ด้วย มิกค์เขาก็ไม่ได้จีบด้วย แต่เห็นว่าสนิทกับคุณแม่แนท ก็ไม่ได้เข้าทางคุณแม่นะ เราสนิทก็เจอคุณแม่บ่อย คุณแม่ก็เลยสนิทด้วยเป็นพิเศษ พอมีข่าวออกไปก็ไม่ได้ถามเขาหรอกว่าเขาจีบเรามั้ย แค่บอกว่านี่ ๆ ดูซิเป็นข่าวอีกแล้ว แต่รู้สึกตกใจ เพราะเราเป็นเพื่อนกันแต่มีข่าวแบบนี้ก็ตลกดีค่ะ แต่อนาคตข้างหน้าต้องรอก่อนต่างคนต่างทำงาน จะเรียกว่ารอไม่ได้ เพราะเรากับเขาก็เป็นเพื่อนกันเป็นเพื่อนแบบนี้ได้ตลอดไปมากกว่าคงไม่มี โอกาสพัฒนาค่ะ แต่คนจะมองเราปากแข็งใช่มั้ยคะ ไม่ได้ปากแข็งเลย เราสนิทจริงคุณแม่ไว้ใจมิกค์มาก เขาสามารถพาครอบครัวแม่และแนทไปไหนด้วยได้ ไม่ได้ปากแข็งพูดความจริงค่ะ ไม่กลัวคนเข้าใจผิดอย่างที่ลงรูปคู่กันบ่อย ๆ ก็บริสุทธิ์ใจคิดว่าคนจะเข้าใจค่ะ มิกค์เขาก็น่ารัก เราก็ไม่มีสเปกคิดว่าคุยกับใครสบายใจก็คุยกับคนนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่อยากคบใครจริงจังก็เป็นเพื่อนสนิทกันแค่นั้นไม่มีอะไร”
โบ เปิดเผยว่า “น้องอชิ ได้มีโอกาสเจอกับแบงค์บ้างค่ะ มีโอกาสก็ไปทานข้าวกัน หรือไม่ก็ทำอาหารทานที่บ้าน ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องของกินของเล่นมากกว่า ถามว่าเขาผ่านด่านลูกหรือยัง ก็โอเคค่ะ เพื่อน ๆ หรือใครก็ตามเขาก็อยากให้เราเลือกคนที่น่ารัก และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าใครก็ตามสภาพแวดล้อมที่ได้มาเจอ ก็อยากให้น้องได้เจอและแฮปปี้ด้วย นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตอนนี้แบงค์ยังไม่ค่อยชินกับสื่อ ก็อาจจะแปลก ๆ อยู่บ้าง (หัวเราะ) ทุกวันนี้เรียกสถานะว่าพี่แบงค์เฉย ๆ ค่ะ (หัวเราะ) เพราะเขาก็เหมือนเป็นพี่ที่เรารู้จักกันมานานแล้ว ไม่ได้มีความรู้สึกแตกต่างอะไร เขาก็เหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกที่เจอ เขาก็อ่อนโยน จิตใจดี คุยด้วยก็เป็นเหมือนพี่คนหนึ่งที่คุยกันแล้วสบายใจ  ส่วนเรื่องไปเที่ยวด้วยกันอีก ยังไม่ได้แพลนเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะไปเที่ยวไหนก็แพลนปุบปับก็ไป เน้นอชิเป็นหลัก เพราะถ้าเขาเปิดเทอมจะไปไหนไม่ค่อยได้ เราต้องเลี้ยงน้องเป็นหลัก เราอยากไปเที่ยวนะ แต่เราต้องรอให้เขาปิดเทอมก่อน เพราะน้องเขาเรียนอินเตอร์ จะปิดเทอมตอนเดือนมิถุนายน เดี๋ยวก็ต้องค่อย ๆ แพลนดูอีกที ส่วนข่าวดี (หัวเราะ) จริง ๆ ก็อยากให้ดูกันไปก่อน เพราะเราไม่อยากคาดหวังในเรื่องของอนาคต แต่เราอยากทำให้ทุก ๆ วันเป็นวันที่ดี เรารู้สึกว่าตอนนี้มันกำลังดี และเราเองก็อยู่ในช่วงที่ต่างคนต่างมีหน้าที่ มาเจอกันในวันที่น้องอชิเริ่มโต ส่วนเรื่องของอนาคตก็อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่อยากไปเร่งรัดอะไร”