Sunday, May 26, 2013

แนท เผยว่า “ความรักดีค่ะ เรื่อย ๆ บางทีเรามีความสุขในชีวิตทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัว ทุกอย่างก็จะดีไปหมด ส่วนที่ผู้ใหญ่ในช่อง 7 ไม่อยากให้พูดเรื่องรักมาก มันอาจจะนิดนึง เพราะเราก็เป็นเด็กอยู่ด้วย ทำอะไรก็ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ แต่ก็ยังไม่มีใครเรียกเข้าไปพูดคุย คุณพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรกับเรื่องนี้ ปกติแนทเองก็คุยกับคุณพ่อทุกเรื่องอยู่แล้ว ถามว่าคุณพ่อไฟเขียวมั้ย อาจจะเป็นเพราะว่ามันยังอยู่ในสายตามากกว่า ตอนนี้เราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันปกติ นาน ๆ ทีเจอกัน ถ้าเราว่างก็มีกินข้าวนิดหน่อย ทุกวันนี้พี่เจ๋งยังเสมอต้นเสมอปลาย แนทว่ามันเหมือนวันแรกที่เจอกัน ยังรู้สึกดี ๆ ต่อกันเหมือนเดิม เรื่องการระวังตัวในการคบกัน เราก็พยายามทำตัวในชีวิตประจำวันให้ปกติที่สุด ส่วนสถานะกับพี่เจ๋งก็เหมือนเดิมค่ะ คุยกัน สนิทกัน ไม่ได้เรียกความสัมพันธ์แบบนี้ว่าอะไร สิ่งที่ประทับใจในตัวเขา คือเวลาที่เราคุยกันแล้วมันรู้เรื่อง เวลาแนทเห็นพี่เขาทำในสิ่งที่เขารัก ได้เห็นเขาร้องเพลง เราก็รู้สึกมีไฟขึ้นมาด้วยเหมือนกัน ส่วนที่ยังไม่อยากเรียกแฟน เพราะแนทอยากเป็นพี่แบบนี้เราคุยกันรู้เรื่อง เราค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปมันดีกว่า ยังไม่อยากรีบร้อน ความรักไม่ได้มีผู้ใหญ่มาขอไว้เลย เรื่องนี้แนทคิดว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคนที่คุยกันแล้วเป็นยังไง ทุกวันนี้ก็มีความสุขดีและโอเค ส่วนที่คนมองว่าเรากั๊กคำว่าแฟนไว้ เพื่อให้พี่เจ๋งออกมาพูดก่อน จริง ๆ ไม่ได้กั๊กนะคะ แนทคิดว่าเราทำทุกวันให้เหมือนเดิม ไม่จำเป็นต้องพูดว่าเป็นแฟนหรือเป็นเพื่อนกัน การที่เราคุยกันรู้เรื่องก็ดีที่สุดแล้ว มันไม่จำเป็นต้องเรียกว่าเป็นอะไรกันค่ะ”
ล่าสุดมีข่าวว่าเราขี้หึงขนาดไปตามถึงข้างเวที เวลาเขาเล่นคอนเสิร์ตด้วย? “ไม่เคยไปตามถึงข้างเวทีนะคะ ก็ไปดูคอนเสิร์ตธรรมดานี่แหละ ไม่มีไปเฝ้า ด้วยความที่เราถ่ายละครทุกวันก็ไม่มีเวลาไปตามขนาดนั้น ถามว่าแนทขี้หึงมั้ย แนทว่าทุกคนขี้หึงหมด แต่มันเป็นเรื่องการทำงานมากกว่า เราทำงานจุดนี้ก็ต้องเข้าใจกัน ส่วนพี่เจ๋งเองเจอแฟนคลับสาว ๆ เยอะ เรามีแอบหวง ๆ บ้างมั้ย คือแนทดีใจมากกว่าที่ทุกคนชื่นชอบ เราไม่มีหวงเลย ดีมากกว่ากับการที่เขามีแฟนคลับชอบเยอะแยะไปหมด ขนาดเรายังอยากที่จะฟังเพลงเขาเลยค่ะ
เชียร์ เผยว่า “ที่ผ่านมาไม่ใช่เราไม่รับละคร แต่ด้วยเรื่องจังหวะและโอกาสมากกว่า ตอนนี้เราได้ฤกษ์ลุยงานละครต่อแล้ว ที่บอกว่าสยบข่าวย้ายช่อง คือเชียร์ว่าเหมือนมันเป็นสมมุติฐานที่มีการตั้งขึ้นมาเองมากกว่า แต่จริง ๆ แล้วก่อนที่ละครจะเปิด เราก็ทำพิธีกรให้กับช่องอยู่ 3 รายการด้วยกัน ไม่ได้หายหน้าขนาดนั้น เฉพาะในแง่ละครเท่านั้นที่คนมองว่าจะย้ายช่อง แต่จริง ๆ แล้วไม่เกี่ยวค่ะ ส่วนสัญญากับช่องตอนนี้ ก็ยอมรับตามตรงว่าไม่ได้พูดถึงกันเลย ล่าสุดมีแต่การพูดถึงแต่ละครมากกว่า เชียร์ไม่อยากให้มองว่าหมดรึยัง ย้ายมั้ย ไม่ว่าสัญญาจะหมดแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าเราจะย้ายไปไหน ในแง่ตัวสัญญายังไม่ได้หมดด้วยซ้ำไป เราเองก็ไม่ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่เรื่องนี้ด้วย เพราะเชียร์ให้ความสนใจที่ตัวงานมากกว่าที่จะมีสัญญามั้ย ซึ่งสัญญาของเชียร์ล่าสุดก็ต่อไปแค่ 2 ปี แต่เราไม่ได้สนใจเลยว่าเหลือเท่าไหร่ ตอนนี้มันอาจจะผ่านไปสักปีแล้ว ถามว่าถ้าหมดสัญญา เราก็ยังอยู่กับช่องด้วยสัญญาใจรึเปล่า คือเชียร์ไม่อยากให้เอาเรื่องอนาคตมาพูดถึงก่อนที่จะอะไร เอางานวันนี้ให้ดีที่สุดก่อนค่ะ”
ถามถึงหัวใจ ล่าสุดมีข่าวว่าเรากิ๊กกับโทนี่ หลังจากที่ไปออกรายการ “ที่นี่หมอชิต” ด้วยกัน? “ในส่วนพี่โทนี่ไม่ได้มีอะไรเลย อาจจะเป็นแค่ช่วงนี้กระแสจับคู่จิ้นมันเยอะมาก วันที่ออกรายการด้วยกัน เราเองเวลาแซวก็อาจมีอาการเขิน มันก็เป็นเรื่องยิ้ม ๆ ณ โอกาสนั้น ไม่ได้ขนาดสานสัมพันธ์กันอย่างที่จับตามองกัน ส่วนในรายการเห็นมีหยอด ๆ กัน คือมันเป็นนิสัยเราอยู่แล้ว เล่นอะไรได้เราก็เล่น มุกแบบติ๊งต๊องก็ไม่ได้คิดว่าจะถูกตัดออกอากาศด้วยซ้ำ อันนี้คงเป็นโมเมนต์ที่ตลกดี แต่ก็เป็นปกติอยู่แล้วที่เรามีแซวแขกรับเชิญ ถามว่าพี่โทนี่ตรงสเปกมั้ย คือเชียร์ชอบในความคิดเขามากกว่า รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีความคิดเจ๋ง เป็นเรื่องที่เราชื่นชม เชียร์เชื่อว่าหลายคนก็คงชอบ คงปลื้มกับความมีสไตล์ของผู้ชายคนนี้เหมือนกันค่ะ ซึ่งโทนี่เองก็ไม่ได้มีท่าทีมาจีบเลย มันเป็นแค่การทำงานเฉย ๆ จริง ๆ มันเคยเป็นข่าวตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ออกเทปแรกไป มันเหมือนเป็นการเล่นตามสคริปต์ ที่พูดเพราะเป็นสีสันรายการ ส่วนตัวไม่มีอะไร ส่วนโอกาสพัฒนาจะมีมั้ย อันนี้อาจเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้คนจับตามอง เพราะสถานะทั้งคู่ก็โสด แต่ในส่วนตัวเชียร์ที่ไม่เกี่ยวกับงาน ก็คงเป็นเพื่อนร่วมงานที่มีความคิดน่ารักคนหนึ่ง เราเองก็ขอเป็นกำลังใจให้ ไม่ได้มีโอกาสพิเศษที่จะสานสัมพันธ์ขนาดนั้นค่ะ ส่วนตัวก็ชื่นชมว่าเขาเป็นคนที่น่ารักค่ะ
ครีมห่างจากงานหนังมาพอสมควร ตั้งแต่ แม่นาก 3 มิติ ก็คิดถึงงานหนังมาก ที่ผ่านมามีติดต่อเข้ามา  แต่บทไม่ถูกใจ  ไม่ใช่ครีมเรื่องเยอะ แต่เวลาทำงานก็อยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ  ยิ่งเป็นการแสดงด้วยแล้ว  มันต้องพิถีพิถันหน่อย ไม่ใช่มีบทอะไรมาก็รับ..จริงมั้ยค่ะ  ตอนนี้มีติดต่อเข้ามา แต่ยังคุยกันไม่ลงตัวในเรื่องของบท เพราะครีมอยากเล่นบทดราม่า บทที่ต้องใช้อารมณ์เยอะๆ เพราะรู้สึกว่าเป็นการทดสอบฝีมือด้านการแสดงมาก ๆ หนังที่ติดต่อมาส่วนใหญ่ก็จะให้เล่นเซ็กซี่ ซึ่งครีมก็ไม่ได้ปฏิเสธซะทีเดียว แต่อยากให้มีอะไรมากกว่านี้ เพราะงานหนังเป็นอะไรที่คลาสสิกมาก ส่วนงานละครก็มีเข้ามาเรื่อย ๆ ค่ะ ล่าสุดมีงานละครเรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ ทางช่อง 8 ก็เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่น่าสนใจค่ะ
-นางเอกสาวทรงโต เจ้าของบทบาทการแสดงที่ผ่านสายตาผู้ชมมาแล้วมากมาย ในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในด้านการแสดงทั้งเบื้อง หน้าและเบื้องหลังมาเป็นอย่างดี เพราะใจรักและตั้งใจว่าจะเอาดีทางด้านภาพยนตร์ในฐานะผู้กำกับฯ ให้จงได้

และในที่สุดวันนั้นก็มาถึง “ตั๊ก-บงกช” โชว์ฝีมือกำกับภาพยนตร์เรื่องแรก “นางฟ้า” เธอคุยให้เราฟังว่า “ตั๊ก” ได้สัมผัสกับคนทำภาพยนตร์มาตั้งแต่เด็กตั้งแต่เข้าวงการ แล้วก็อินกับมันจนรักภาพยนตร์ แล้วก็รู้สึกว่าอาชีพที่จะต้องอยู่ต่อไป เราอยากอยู่กับวงการสร้างหนัง ด้วยความที่เป็นนักแสดง ก็ชอบเก็บรายละเอียดเก็บมุมมอง เก็บในเรื่องของชีวิตต่างๆ ชอบศึกษาชีวิตคนนู้นคนนี้ ก็จะจดเป็นไดอารี่ไว้บ้าง พอถึงจุดหนึ่งเราอยากจะนำมาทำเป็นภาพยนตร์ อยากจะนำชีวิตหรือมุมมองนั้นมาถ่ายเป็นหนังขึ้นมา มันก็เป็นเรื่องที่ตั๊กชอบด้วย จึงอยากหยิบยกขึ้นมาตีแผ่ค่ะ”

ที่มาของเรื่องราวชีวิตนางโชว์ ในหนัง “นางฟ้า” ล่ะ “มีโอกาสได้มาเจอกับพี่อ้วน รีเทิร์น แล้วใจเราตรงกันว่าอยากจะทำหนัง ส่วนพี่อ้วนเสนอมาว่าอยากนำเรื่องเกี่ยวกับนางโชว์ ในแง่มุมที่อยากให้รู้ว่าความเป็นผู้หญิงทำงานกลางคืน ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นคนไม่ดีเสมอไป ส่วนตั๊กก็นำมาคิดต่อว่าอยากทำในมุมของชีวิตเด็กที่เกิดจากนางโชว์ เมื่อเรานำเรื่องมามิกซ์กันจึงกลายเป็นหนังขึ้นมาค่ะ”

“จริง ๆ ไอเดียแรกของหนังเรื่องนางฟ้า ต้องย้อนไปสมัยก่อน หนังต่างประเทศชอบให้ตั๊กไปแคสบทผู้หญิงกลางคืนอะไรอย่างนี้แทบทุกเรื่อง ตั๊กเลยรู้สึกว่าต่างชาติมักจะมองผู้หญิงไทยที่ทำงานกลางคืนในแง่ลบเพียง ด้านเดียว เราก็เลยคิดอยากจะทำหนังที่ให้เกียรติผู้หญิงเหล่านี้ที่สะท้อนให้เห็นแง่ มุมชีวิตต่าง ๆ ที่ชัดเจนมากขึ้น ก็เลยลงตัวที่เรื่องราวของพวกสาวนักเต้นหรือนางโชว์ ซึ่งจริง ๆ แล้วอยากให้รู้ว่าพวกเค้าก็มีชีวิตทั้งด้านดีและร้ายแบบคนทำอาชีพอื่น ๆ เหมือนกัน ก็จะเป็นหนังชีวิตที่มีครบทุกรสค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความสนุก
สนานไปกับการแสดงโชว์ต่าง ๆ และเนื้อหาดราม่าโดนใจที่สอดแทรกแง่มุมชีวิตจริงของสาว ๆ อาชีพนี้”

สิ่งที่คนดูจะได้รับจากหนังเรื่องนี้คืออะไร “ความบันเทิงค่ะ แต่อีกมุมนึงคือการสะท้อน เรื่องราวชีวิต ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คนที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาชีวิตจะมีทางเลือก และการตัดสินใจแก้ไขปัญหาเหล่านี้ที่เกิดขึ้นอย่างไร ตั๊กเชื่อว่าจะเป็นหนังที่สะท้อนสังคมได้อย่างดีค่ะ ฝากผลงานเรื่องนางฟ้า ไว้ด้วยนะคะ เป็นงานกำกับเรื่องแรกของตั๊ก ตั้งใจทำเต็มที่มาก อยากให้ทุกคนมาดูกันเยอะ ๆ

Saturday, May 25, 2013

- วันนี้รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก ๆ เพราะรางวัลนี้เป็นรางวัลที่คนในวงการโหวตให้กันเองค่ะ พอได้รางวัลก็รู้สึกภาคภูมิใจและหายเหนื่อยจริง ๆ ค่ะ ธัญญ่าถือว่าละครประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เฉพาะแค่ธัญญ่าคนเดียว มันเป็นประวัติการณ์ของเมืองไทยก็ว่าได้ที่มีวันแรงเงาแห่งชาติ ละครเรื่องนี้ถือว่าประสบความสำเร็จตั้งแต่ทีมงาน ผู้บริหาร นักแสดงทุกคนและ ผู้จัดละคร เราถือว่าเป็นละครที่ได้รับการตอบรับอย่างดีมาก ๆ เลยค่ะ ส่วนวันนี้มีพูดประโยคเด็ดใช่มั้ยคะ ก็ขอบคุณทางช่อง 3 คุณประวิทย์, คุณประสาร, คุณสมรักษ์, พี่หน่อง-อรุโณชา, พี่เติม-ชนินทร ฯลฯ และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือพี่เป๊ก-สัณชัย เพราะเราจะบอกในทุกเวทีที่ได้รางวัลว่า ถ้าเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ เราก็ไม่รู้เราจะสามารถเล่นได้ขนาดนี้หรือเปล่า เพราะว่าความเจ็บปวดที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องเจอกับปัญหาครอบครัวแบบนี้มัน รุนแรงและแสนสาหัส นพนภามีความรู้สึกกว่าคนทั่วไปเพิ่มหลายเท่าอีก ถ้าเราไม่มีประสบการณ์มันยากนะ เราเลยต้องมอบรางวัลนี้แบ่งให้พี่เป๊กด้วย (หัวเราะ) ซึ่งชีวิตจริงตอนนี้พี่เป๊กก็เป็น ผอ.ตัวจริง เพราะเขาไปอยู่ภาคใต้ไปเป็น ผอ. จริง ๆ ด้วย บนเวทีเลยบอกว่าต้องขอบคุณพี่เป๊กที่ทำให้เรารับรู้ถึงความรู้สึกของนพนภา ประมาณนี้ และความรู้สึกของเมียหลวง แต่ขอบอกว่าไม่เกี่ยวกับจะบอกใคร เพราะเราพูดทุกเวที อย่าไปมองตรงนั้นเลยเรื่องราวมันผ่านไปแล้วให้ผ่านไป นี่แค่ความรู้สึกของเราที่มีกับพี่เป๊ก เรื่องที่คนจับโยงคงเพราะสนุกปาก เพราะเรื่องก็แซบมานานเนอะ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้จบแล้วก็ให้จบไป” วันนี้เขาพาแฟนเขามาเปิดตัวด้วยถือ ว่าโล่งใจมั้ย? “เรื่องนี้เลิกคิดไปนานแล้วค่ะ ต่างคนต่างดำเนินชีวิตของตัวเองไป อะไรที่ไม่ดีก็ผ่านไปดีกว่า เราไม่ได้เจอกันในงาน ถามว่าเจอแล้วจะคุยได้มั้ย มันไม่ได้มีเรื่องต้องคุยน่ะค่ะ ไม่รู้สิ เรื่องผ่านไปแล้วก็จริง แต่จะมาคุยเรื่องอะไรล่ะ ปกติเราไม่ได้รู้จักกันอยู่แล้ว ตอนนี้เราเข้มแข็งแล้ว ครอบครัวก็แฮปปี้ดี พี่เป๊กก็ขึ้นมากรุงเทพฯบ้าง เราก็พาลูกไปหาเขาบ้าง ลียาจะ 4 ขวบแล้วด้วย ถามว่าอยากมีน้องให้ลียามั้ย ตอนนี้เฉย ๆ เลี้ยงลียามีความสุขมากแต่เหนื่อยมากเหมือนกัน ไปไหนก็ห่วงถ้ามีน้องให้เขาอีกก็ห่วงเพิ่ม พี่เป๊กเองก็อยากมีลูกชาย แต่เรายังไม่ตกลงจะมี แต่อนาคตก็ไม่แน่อาจจะมีก็ได้.-
- อย่างล่าสุดมีข่าวว่าสาววิวไปเปิดไลน์ของหนุ่มหมากที่ส่งข้อความหาคู่จิ้นอ ย่าง คิม-คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส ว่าคิดถึงมาก จนงอนหนุ่มหมากทำให้หนุ่มหมากขึ้นรูปดำปี๋ในอินสตาแกรม แถมสาววิวยังมีข่าวควงพระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ ไปกินไอศกรีมสองต่อสองอีก งานนี้เจอตัวสาววิวเจ้าตัวเลยขอเคลียร์เรื่องทั้งหมดทันทีว่า

- ข่าวไปกินไอติมกับมาริโอ้มั่วมากเลยค่ะ รู้จักกันจริงแต่เราเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่สนิทด้วย ไม่เคยเจอกันนอกรอบเลยดีกว่า นานแล้วด้วยที่ไม่ได้เจอกัน เป็นข่าวมั่วมาก ๆ ไม่มีทาง วิวเห็นข่าว เพราะว่าแฟน ๆ ส่งมาให้ดู ทุกคนมองเป็นเรื่องตลกหมด ก็เลยไม่คิดอะไร รู้สึกว่าตอนนี้อะไรมันก็เป็นได้หมด แต่คนก็ไปโยงว่าทำไมหมากขึ้นจอดำในอินสตาแกรมใช่มั้ยคะ วิวว่าเขาคงมีเรื่องเครียดของเขา งานคงเยอะหรือว่าเหนื่อยอะไรก็ไม่ทราบ แต่ก็ให้กำลังใจเขาไป ยิ่งขึ้นที่สูงปัญหาก็ยิ่งเยอะ วิวจะไม่ถามให้เขารู้สึกแย่ไปอีก ถ้าสบายใจจะเล่าอะไรก็เล่าเป็นแบบนั้นมากกว่า ก็ให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ ให้เขาสู้ ๆ ส่วนข่าวว่าวิวไปเปิดโทรศัพท์หมากเจอข้อความคิดถึงนะในไลน์ส่งไปให้คิม วิวจะบอกว่าเรื่องโทรศัพท์เป็นอะไรที่ส่วนตัวมากเลยจะไปจับไปเปิดของเขาได้ ยังไง เขาสองคนเป็นคนที่ร่วมงานกัน วิว   ก็ไม่รู้ไม่เกี่ยวข้องด้วย วิวไม่เห็นข้อความอะไรทั้งนั้นไม่เคยไปยุ่งกับโทรศัพท์เขา ก็เข้าใจว่าเขาจิ้นกันในละครเนอะ แฟนคลับเขาก็เชียร์เยอะ แต่เราก็ไม่ได้รู้ห่วงหรือกังวลอะไร เพราะอีกฝ่ายเขาก็มีคนของเขา เขาก็สนิทกันจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าด้วยความสนิทหรือว่าอะไรแต่อย่าเอาวิวไปโยงด้วยเลยค่ะ

- แสดงว่าไว้ใจหมาก? “ค่ะ ณ จุดนี้เราก็ยังดู ๆ กันไป ก็ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า ให้วิวไปยืนยันใคร 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ณ ตอนนี้ยังโอเคอยู่ก็ดูกันไปก่อน บางทีข่าวก็เป็นจุดวุ่นวายด้วย แต่สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนว่ามันจะเป็นไปได้ไหมหรือเป็นเพื่อนกัน ดีกว่า เราเองรู้กันอยู่แล้วว่าอันไหนเรื่องจริงไม่จริงค่ะ.-
นย เป็นตัวแทนกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ดีใจที่ได้มาทำหน้าที่ทูตทีเอสพีซีเอ ต่อจากพี่วงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ซึ่งก็ได้เห็นข่าวพี่เค้าออกไปช่วยสัตว์จรจัด ล่ารายชื่อร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ในฐานะรุ่นน้อง และรักสัตว์เหมือนกัน ก็พร้อมสานต่อโครงการนี้ เพื่อให้เค้ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ถูกทารุณ

แต่ล่าสุดก็ยังมีข่าวสุนัขถูกจับไปขาย เห็นแล้วสงสารมาก ไม่มีใครอยากถูกกักขัง สัตว์เค้ามีชีวิต มีจิตใจ วันนี้ก็ขอเป็นหนึ่งคนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือสัตว์จรจัด หรือ สัตว์ชนิดไหนก็แล้วแต่ เค้าคือเพื่อนร่วมโลก เพียงแต่พูดไม่ได้ ก็อยากวอนคนไทยให้มีความรัก มีเมตตา ถ้าเค้าไปสร้างปัญหา สร้างความเดือดร้อน ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูแล อย่าลงโทษด้วยการทำร้าย เอายาเบื่อให้กิน นอกจากจะเป็นบาปติดตัวแล้ว ยังผิดกฎหมายด้วยค่ะ